สารจากประธานกรรมการ
about-E@
นายสมใจนึก เองตระกูล
( ประธานกรรมการบริษัท )
พลังงาน เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กลุ่มบริษัทฯ จึงมุ่ง เน้นขยายธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการด้านพลังงานในอนาคต ได้แก่ ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “EA Anywhere” ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “MINE Mobility” ธุรกิจเรือโดยสารไฟฟ้า ธุรกิจแบตเตอรี่ และระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด
เรียนผู้ถือหุ้นทุกท่าน

"พลังงานบริสุทธิ์ เรามุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนําเทคโนโลยีมาพัฒนาให้เกิดเป็นนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด ยกระดับฝีมือคนไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการขับเคลื่อนสังคมไปสู่สังคมไทย ไร้คาร์บอน"

ในปี 2566 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวที่พื้นตัวช้ากว่าที่คาด และภาคการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจจีนที่พื้นตัวช้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในยุโรป ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูงจนมีผลกระทบต่อกําลังซื้อ ของภาคครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง

บริษัทฯ จึงได้มีการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและประเมินความเสี่ยง ตลอดทั้งสร้างโอกาสจากวิกฤต ที่จะเกิดขึ้น เพื่อปรับตัวและปรับแผนกลยุทธ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทําให้เกิดเป็นผลการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 31,598 ล้านบาท และมีกําไรสุทธิ 7,606 ล้านบาท

บริษัทฯ ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ โดยกลุ่มน้ํามันไบโอดีเซลได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการนําปาล์มน้ํามันที่ประสบกับปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาไม่แน่นอนไปต่อยอดเป็นน้ํามันกรีนดีเซล ซึ่งเป็นน้ํามันดีเซลรูปแบบใหม่ที่ได้มาตรฐานยูโร 5 และได้ส่งไปจัดจําหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ที่มีความต้องการใช้งาน

กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ได้มีการผลิตเต็มรูปแบบโดย กําาลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 3,000 คันต่อปี มีสายงาน การผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและสายงานการผลิตรถหัวลากไฟฟ้า โดยได้มีการส่งมอบรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า รถหัวลากไฟฟ้ารถบรรทุกไฟฟ้า และรถกระบะไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 2,264 คันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและประสิทธิภาพ ของผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย อีกทั้งรองรับความต้องการของตลาดขนส่งเชิงพาณิชย์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อผู้ถือหุ้น จึงได้เข้าสู่การดําเนินธุรกิจกําจัดขยะและธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย โดยได้ลงนามกับเทศบาลเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ลงนามร่วมพัฒนาโครงการด้วยวิธีเผาทําลายขยะบนพื้นที่เกาะล้านแบบครบวงจร มีระยะเวลาดําเนินการรวม 25 ปี นับจากวันที่ เริ่มดําเนินการ โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการกําจัดขยะมูลฝอยสะอาด อย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามกับเทศบาลนครภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ร่วมลงทุนในรูปแบบลงทุนก่อสร้างและบริหารโครงการโดยใช้เทคโนโลยีระบบเตาเผาแบบตะกรับ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 9.9 เมกะวัตต์ ระยะเวลาโครงการ 20 ปี ไม่รวมระยะเวลาก่อสร้าง โดยบริษัทฯ เล็งเห็นว่าธุรกิจนี้ จะมีความสําคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต

สําหรับการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ เพื่อการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) แห่งสปป.ลาว ในการพัฒนาเพิ่มศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโครงสร้างสายส่งไฟฟ้า (Transmission line) ให้มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพครอบคลุมทั้งพื้นที่ สปป.ลาว และสามารถเชื่อมเข้ากับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าของประเทศ เพื่อนบ้าน การพัฒนาด้านระบบขนส่งเชิงพาณิชย์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนอยู่ระหว่างติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า DC 40 Kw fast-charge อย่างครบวงจร เพื่อการรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ สปป.ลาว ให้ครอบคลุม เพิ่มมูลค่า ด้านพลังงานและด้านระบบคมนาคมด้วยรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะและรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทางเศรษฐกิจด้งกล่าวให้แก่ สปป.ลาว ปีที่ผ่านมา

บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน เป็นครั้งแรก วงเงิน 9,866 ล้านบาท โดยได้รับการตอบ รับจากนักลงทุนทั่วไปอย่างประสบความสําเร็จ และสามารถขายหมดในระยะเวลารวดเร็ว โดยได้รับจัดอันดับเครดิตอยู่ที่ “A-” จากทริสเรทติ้ง บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้รับมอบรางวัลและความสําเร็จที่เกิดขึ้นจากกลยุทธ์การบริหารธุรกิจแบบ "Green Product” เพื่อประโยชน์ต่อสังคมที่ยั่งยืน โดยได้รับรางวัลทั้งในประเทศและระดับสากล เช่น รางวัล "Corporate Excellence Energy Tau Asia Pacific Enterprise Awards (APEA), S105a Entrepreneur of the Year nou Asia Corporate Excellence & Sustainability Awards (ACES) โดย MORS GROUP บริษัทฯ ได้ถูกจัดอันดับจากองค์กรความยั่งยืน MSCI Index ระดับ A, Bloomberg Gender-Equality Index และ SET ESG Rating ระดับ AA และได้รับรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนดีเยี่ยม จากกระทรวง ยุติธรรม

ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการมีกลยุทธ์ที่มุ่งเน้น และพัฒนาด้านพลังงานสะอาด สร้าง Ecosystem ทั้งระบบ มีการลงทุนและการพัฒนากลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และธุรกิจอื่นที่ เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลบวกต่อบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แต่ยังผลักดันให้ประเทศไทย เข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ํา (Low Carbon Society) ผ่านนวัตกรรมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่มีมลพิษ ซึ่ง ถือเป็นส่วนสําคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงได้ในอนาคต

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท ที่ช่วยผลักดันและเป็นส่วนสําคัญในการสร้างความสําเร็จให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าเป็นบริษัทงยองคนไทย พัฒนานวัตกรรมยก ระดับฝีมือคนไทยไปสู่ระดับสากลต่อไป